กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มีชื่อเสียงของประเทศ ที่ออกมา เว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ แถลงอาการติดเชื้อของตัวเองตามหลัง แมทธิว ดีน และ ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ สำหรับ แพรวา ณิชาภัทร หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ แพรวา ฮอร์โมน โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ตัวเองมีเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19
วันที่ 20 มีนาคม เวลาประมาณ 17.00 น.
ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ หรือ แพรวา นักแสดงวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการรับบทเป็น ขนมปัง ในซีรีส์เรื่อง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น แถลงการณ์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @nichaphatc ตรวจพบ ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ที่บริเวณโพรงจมูกกับคอ โดยยังเป็นอาการขั้นแรก และเชื้อก็ยังไม่ลงปอด
แพรวา ณิชาภัทร เริ่มส่งสัญญาณการติดเชื้อในช่วงค่ำของวันที่ 15 มีนาคม โดยมีอาการปวดหัว รู้สึกตัวอุ่น และวัดไข้ออกมาได้ 36.5 องศา ทำให้ ตัวนักแสดงสาว ตัดสินใจกินยาแก้ปวด แล้วนอน ทว่า เช้าวันต่อมา (16 มีนาคม) แพรวา ไม่มีอาการปวดหัวแล้ว แต่วัดไข้ได้ 37 องศา จึงตัดสินใจเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 โดยทันที โดยได้รับผลเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ว่าเป็น บวก
“ทุกคนคะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 มีนา แพรรู้สึกปวดหัว รู้สึกว่าตัวอุ่นๆ วัดไข้ออกมาได้ 36.5 องศา วันนั้นแพรตัดสินใจกินยาแก้ปวดหัวแล้วนอน พอตื่นมาตอนเช้าของวันที่ 16 มีนา แพรไม่ปวดหัวแล้ว แต่ยังรู้สึกตัวอุ่นๆ วัดไข้อีกทีได้ 37 องศา แพรรู้สึกไม่สบายใจว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รึเปล่า เลยตัดสินใจไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ทันที”
“เช้าวันนี้ วันที่ 20 มีนา แพรได้รับสายตรงจากคุณหมอว่าผลการตรวจออกมาแล้วค่ะ ผลเป็น detectable คือตรวจพบไวรัสโคโรนา 2019 ที่โพรงจมูกกับคอของแพรนะคะ โดยที่ยังเป็นอาการขั้นแรก เชื้อยังไม่ลงปอด หายใจได้ตามปกติ กำลังรอผลการเอกซเรย์เพิ่มเติมอยู่ค่ะ หลังจากนี้แพรจะเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในที่โรงพยาบาล รอดูอาการให้ครบ 14 วันค่ะ”
“แพรยังไม่ทราบดีว่าตัวเองได้รับเชื้อมาตั้งแต่วันไหน และไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างการหาที่มาของโรคอยู่ค่ะ แต่ที่อยากแจ้งทุกคนให้รู้ให้เร็วที่สุด เพราะกลัวการกระจายของเชื้อโรคค่ะ”
“แพรกำลังทยอยติดต่อกับทุกคนที่แพรได้ใกล้ชิดหรือได้ร่วมงานด้วยตั้งแต่วันที่ 1 มีนาให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อแจ้งข่าว เพราะอยากให้ทุกคนเริ่มสังเกตอาการตัวเอง กักตัว 14 วันเพื่อเฝ้าระวังอาการต่อไป”
“แพรขอโทษทุกคนจริงๆ นะคะ ที่ทำให้ทุกคนต้องลำบากไปด้วย หลังจากนี้ก็อยากให้ทุกคนดูแลตัวเองกันอย่างจริงจัง งดการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นต้องออก ขอให้ล้างมือบ่อยๆ นะคะ ใครที่ระมัดระวังดีอยู่แล้วก็ฝากบอกต่อคนรอบข้างให้ระวังตัวมากขึ้นไปด้วยกันนะคะ
ลือหนัก! ประกันภัย จ่อเลิกกรมธรรม์ โควิด-19 “เจอ-จ่าย-จบ” หวั่นพลีชีพเอาเงิน
ลือหนัก บริษัท ประกันภัย กำลังพิจารณายกเลิกกรมธรรม์โควิด-19 แบบ “เจอ-จ่าย-จบ” – กังวล “ทุจริตเคลมสินไหม” พลีชีพติดโรคเอาเงินประกัน เพราะลุงทุนแค่ 5-6 พันบาท
แหล่งข่าวเผยว่า บริษัทประกันภัย กำลังอยู่ในช่วงพิจารณายกเลิกการขาย กรรมธรรม์ไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ ประเภท “เจอ จ่าย จบ” เนื่องจากเริ่มกังวลว่า จะเกิดการทุจริตเคลมสินไหมจากผู้เอาประกันภัย (Moral Hazard ) แถมพบว่า ประชาชนมีแนวโน้มซื้อประกันหลายฉบับ-หลายบริษัท เพราะลงทุนน้อย
“บางคนซื้อถึง 8 กรมธรรม์ ได้ทุนประกันรวมกว่า 5-8.5 แสนบาท แต่ลงทุนจ่ายเบี้ยเพียงแค่ 5-6 พันบาท หากคนกลุ่มนี้เกิดไม่มีรายได้ ต้องหยุดงาน หรือธุรกิจมีปัญหา เขาก็อาจจะพร้อมเอาตัวเองไปติดเชื้อไวรัสเพื่อเอาเงินประกัน เพราะค่ารักษาพยาบาลภาครัฐก็ดูแลทั้งหมด และด้วยพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ อาจทำให้คนรอบข้างมีความเสี่ยงต่อการติด โควิด-19 เพิ่มด้วย เพราะการระมัดระวังตัวจะลดลง”
ประกันโควิด-19 แบบ “เจอ จ่าย จบ” ยังทำให้สถิติอัตราความเสียหายมีความโน้มเอียงได้ เช่น กรณีถ้ามีคนรู้ว่าตัวเองเป็น แล้วไปบอกเพื่อนว่าทำแบบนี้แล้วได้เงิน ทุกคนก็จะแห่ซื้อกัน กลายเป็น การส่งเสริมคนที่อยู่รอบข้าง ทำให้สถิติมีค่าเบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริง
ขณะที่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายบริษัทประกันพิจารณาแล้วจะหยุดขายประกันโควิดแบบเจอจ่ายจบ ส่วนประกันโควิดที่เสนอขอความเห็นชอบเข้ามาใหม่ ทางคปภ. จะพิจารณาอย่างเข้มงวดมากขึ้น
จากกรณีโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกเหตุการณ์ขณะชายคนหนึ่งเดินเข้าลิฟต์ในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีหนึ่ง ก่อนป้ายนิ้วของตัวเองที่เปื้อนน้ำลายลงไปที่ปุ่มกดภายในลิฟต์ตัวดังกล่าว โดยไม่สนใจการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) นอกจากนี้ ยังจะเห็นอีกว่า นอกจากน้ำลายแล้ว ชายคนนี้ยังล้วงลงไปในจุดซ่อนเร้น และใช้มือที่ล้วงมากดลิฟต์ต่ออีกด้วย
ล่าสุด บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส ขอชี้แจงดังนี้ เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 05.23 น. (วันที่ 20 มีนาคม 2563 ) ภายในลิฟต์โดยสาร ฝั่งสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ จากพื้นถนนมาชั้นจำหน่ายตั๋ว โดยเจ้าหน้าที่ได้พบเหตุผิดสังเกตจากกล้องวงจรปิด หลังชายคนดังกล่าวได้กระทำการไม่เหมาะสม นายสถานีจึงได้เข้าไปตรวจสอบในทันที สล็อตเว็บตรง , ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เว็บตรง